วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552

Supply Chain Management : SCM

การจัดการลูกโซ่อุปทาน (Supply Chain Management : SCM)




เป็นแนวคิดการจัดการที่รวมกระบวนการจัดการลูกโซ่อุปทาน เป้าหมายของ SCM คือ การลดต้นทุน เพิ่มกำไร ปรับปรุงความสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้ขาย และพัฒนาบริการมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้บริษัทได้เปรียบคู่แข่งขัน โดยมีวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ 3 ประการคือ


-ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ในสถานที่ที่เหมาะสม ในราคาที่ต่ำสุด


-รักษาระดับสินค้าคงคลังต่ำสุดเท่าที่ทำได้


-และยังคงเสนอการบริการให้ลูกค้าที่ดีเยี่ยม


ลดเวลาที่ใช้ การจัดการลูกโซ่อุปทานพยายามหาความเรียบง่ายและการดำเนินการที่รวดเร็ว ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีการดำเนินการระบบคำสั่งซื้อของลูกค้า วิธีการสั่งวัตถุดิบ และการขนส่งสำหรับกระบวนการโรงงานอุตสาหกรรม
การจัดการผู้ขาย ใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดจำนวนผู้ขายและให้เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจแบบอยู่ได้ทั้งคู่ (Win/win)


การจัดการสินค้าคงคลัง วงจรการสั่งซื้อ - ส่ง- เก็บเงิน (Order-ship-bill Cycle) ที่สั้นลงด้วยกระบวนการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และเพื่อรักษาระดับสินค้าคงคลังให้ต่ำที่สุด


การจัดการการกระจายสินค้า ใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของเอกสาร ( ใบขนสินค้า ใบสั่งซื้อ ใบแจ้งการขนส่งล่วงหน้า ฯลฯ)
การจัดการช่องทางการจำหน่าย ใช้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบกระดานข่าว และกลุ่มข่าว เพื่อเผยแพร่สารสนเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการดำเนินงานไปยังหุ้นส่วนการค้าได้อย่างรวดเร็ว


การจัดการการชำระเงิน ใช้ระบบการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์เชื่อมระหว่างบริษัทกับผู้ขายและตัวแทนจำหน่าย ทำให้สามารถชำระและรับเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้


การจัดการการเงิน ใช้ระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทำให้บริษัททั่วโลกสามารถจัดการด้านเงิน ในบัญชีเงินตราต่างประเทศ


การจัดการเจาะตลาด ใช้วิธีการเจาะตลาดอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงการสื่อสารและการไหลของสารสนเทศระหว่าง การขาย การบริการลูกค้า และงานการผลิต



Corporate Social Responsibility (CSR)

ซีเอสอาร์คืออะไร
ซีเอสอาร์ เป็นคำย่อจากภาษาอังกฤษว่า Corporate Social Responsibility (CSR) หรือ บรรษัทบริบาล หมายถึง การดำเนินกิจกรรมภายในและภายนอกองค์กร ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมทั้งในระดับใกล้และไกล ด้วยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในองค์กรหรือทรัพยากรจากภายนอกองค์กร ในอันที่จะทำให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุขหากพิจารณาแยกเป็นรายคำศัพท์ คำว่า Corporate มุ่งหมายถึงกิจการที่ดำเนินไปเพื่อแสวงหาผลกำไร ส่วนคำว่า Social ในที่นี้ มุ่งหมายถึงกลุ่มคนที่มีความสัมพันธ์กันหรือมีวิถีร่วมกันทั้งโดยธรรมชาติหรือโดยเจตนา รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นและสิ่งแวดล้อมที่อยู่รายรอบประกอบ และคำว่า Responsibility มุ่งหมายถึงการยอมรับทั้งผลที่ไม่ดีและผลที่ดีในกิจการที่ได้ทำลงไปหรือที่อยู่ในความดูแลของกิจการนั้นๆ ตลอดจนการรับภาระหรือเป็นธุระดำเนินการป้องกันและปรับปรุงแก้ไขผลที่ไม่ดี รวมถึงการสร้างสรรค์และบำรุงรักษาผลที่ดีซึ่งส่งกระทบไปยังผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ



ลำดับชั้นของผู้มีส่วนได้เสียในระดับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับซีเอสอาร์คำว่า กิจกรรม ในความหมายข้างต้น หมายรวมถึง การคิด การพูด และการกระทำ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ การวางแผน การตัดสินใจ การสื่อสารประชาสัมพันธ์ การบริหารจัดการ และการดำเนินงานขององค์กรสังคมในความหมายของความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการ จะมุ่งไปที่ผู้มีส่วนได้เสียนอกองค์กร ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับ ได้แก่ สังคมใกล้ และสังคมไกล
สังคมใกล้ คือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับองค์กรโดยตรง ได้แก่ ลูกค้า คู่ค้า ครอบครัวของพนักงาน ชุมชนที่องค์กรตั้งอยู่ ซึ่งรวมถึงสิ่งแวดล้อมหรือระบบนิเวศ
สังคมไกล คือ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรโดยอ้อม ได้แก่ คู่แข่งขันทางธุรกิจ ประชาชนทั่วไป เป็นต้นในระดับของลูกค้า
ตัวอย่างซีเอสอาร์ของกิจการ ได้แก่ การสร้างผลิตภัณฑ์ที่เน้นคุณค่ามากกว่ามูลค่า ความรับผิดชอบในผลิตภัณฑ์ต่อผู้บริโภค การให้ข้อมูลขององค์กรและตัวผลิตภัณฑ์อย่างเพียงพอและอย่างถูกต้องเที่ยงตรง มีการให้บริการลูกค้าอย่างตรงไปตรงมา เป็นต้นในระดับของคู่ค้า การแบ่งปันหรือการใช้ทรัพยากรร่วมกันหรือการรวมกลุ่มในแนวดิ่งตามสายอุปทาน ความรอบคอบระมัดระวังในการผสานประโยชน์อย่างเป็นธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบต่อคู่ค้า เป็นต้นในระดับของชุมชนและสภาพแวดล้อม ตัวอย่างซีเอสอาร์ของกิจการ ได้แก่ การสงเคราะห์เกื้อกูลชุมชนที่องค์กรตั้งอยู่ การส่งเสริมแรงงานท้องถิ่นให้มีโอกาสในตำแหน่งงานต่างๆ ในองค์กร การสนับสนุนแนวทางการระแวดระวังในการดำเนินงานที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานที่อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนที่องค์กรตั้งอยู่ และการเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข เป็นต้นในระดับของประชาสังคม
การสร้างความร่วมมือระหว่างกลุ่มหรือเครือข่ายอื่นๆ ในการพัฒนาสังคม การตรวจตราดูแลมิให้กิจการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน การรับฟังข้อมูลหรือทำประชาพิจารณ์ต่อการดำเนินกิจการที่ส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม และการทำหน้าที่ในการเสียภาษีอากรให้รัฐอย่างตรงไปตรงมา เป็นต้นในระดับของคู่แข่งขันทางธุรกิจ
การดูแลกิจการมิให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแข่งขันด้วยวิธีการทุ่มตลาด การดำเนินงานในทางต่อต้านการทุจริต รวมทั้งการกรรโชก และการให้สินบนในทุกรูปแบบ เป็นต้น